อาร์เซนอลเริ่มต้นปี 2025 ด้วยชัยชนะสำคัญเหนือเบรนท์ฟอร์ด 3-1 ในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ณ สนามจีเทค คอมมูนิตี้ สเตเดียม ผลการแข่งขันนี้ช่วยให้ทีมปืนใหญ่สามารถไล่จี้จ่าฝูงลิเวอร์พูลให้เหลือเพียง 6 คะแนน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตามหลังถึง 9 คะแนน การแข่งขันเริ่มต้นด้วยความท้าทายเมื่อเสียประตูนำก่อนจากการทำประตูของ ไบรอัน เอ็มบูโม่ นาทีที่ 13 แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการปรับเปลี่ยนแทคติกที่ชาญฉลาด ทำให้ปืนใหญ่สามารถพลิกกลับมาชนะได้จากประตูของ กาเบรียล เชซุส, มิเกล เมริโน่ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ชัยชนะนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนในการท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกด้วย
วิเคราะห์เกมการแข่งขัน
เบรนท์ฟอร์ดเข้าสู่เกมนี้ท่ามกลางวิกฤตการบาดเจ็บของนักเตะหลายราย โดยมีผู้เล่นที่บาดเจ็บเกือบจะเป็นทีมพรีเมียร์ลีกได้หนึ่งทีม แต่ด้วยการกลับมาของผู้รักษาประตู มาร์ค เฟล็กเค่น ทำให้ทีมยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง พวกเขาสามารถนำก่อนจากฝีเท้าของเอ็มบูโม่ที่ยิงผ่านดาบิด รายา เข้าไป ซึ่งเป็นประตูที่ 11 ของเขาในฤดูกาลนี้
จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรก เมื่อรายาเกือบจะผิดพลาดร้ายแรงจากการรับลูกยิงของ คีน ลูอิส-พอตเตอร์ แต่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาป้องกันประตูได้อย่างหวุดหวิด และเพียง 55 วินาทีต่อมา เชซุสก็ตามตีเสมอให้อาร์เซนอลได้สำเร็จ จากการโหม่งลูกตกในระยะประชิด นับเป็นประตูที่ 6 ของเขาจาก 4 เกมหลังสุดในทุกรายการ
ในครึ่งหลัง อาร์เตต้าได้ปรับเปลี่ยนแทคติกการเล่น ทำให้อาร์เซนอลแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน พวกเขาสามารถทำสองประตูในเวลาเพียงสามนาที โดยประตูแรกมาจากลูกเตะมุมที่เมริโน่จบสกอร์เข้าไป หลังจากที่เฟล็กเค่นรับลูกเตะมุมของเนวานิรีไม่อยู่ และตามด้วยประตูที่สามจากมาร์ติเนลลี่ที่ยิงไกลเข้าไปอย่างสวยงาม ผลงานในครึ่งหลังนี้ช่วยให้อาร์เซนอลรักษาสถิติไร้พ่าย 11 นัดในทุกรายการ
ผลงานโดดเด่นของ เอธาน เนวานิรี
เอธาน เนวานิรี ดาวรุ่งวัย 17 ปี สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งในสนามที่เขาเคยทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เมื่อลงเล่นเป็นตัวสำรองตอนอายุ 15 ปี 181 วัน ในเกมที่พบกับเบรนท์ฟอร์ดเมื่อเดือนกันยายน 2022 คราวนี้เขาได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในพรีเมียร์ลีก และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
เนวานิรีแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เหนือชั้นด้วยสถิติการส่งบอลที่สมบูรณ์แบบ 100% ในครึ่งแรก (17 จาก 17 ครั้ง) สร้างโอกาสทำประตูได้ 2 ครั้ง รองจากมาร์ติเนลลี่ที่ทำได้ 3 ครั้ง และเสียบอลเพียง 2 ครั้งตลอดทั้งเกม นอกจากนี้ เขายังมีส่วนสำคัญในการทำประตูที่สามของทีม ด้วยวัย 17 ปี 286 วัน เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับสามที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับอาร์เซนอล ต่อจากเซสก์ ฟาเบรกาส (17 ปี 103 วัน) และธีโอ วอลคอตต์ (17 ปี 212 วัน)
ความเห็นของผู้จัดการทีม
มิเกล อาร์เตต้า กล่าวหลังเกมด้วยความภาคภูมิใจว่านี่เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะการเอาชนะทีมที่แข็งแกร่งและมีผลงานในบ้านที่ยอดเยี่ยมอย่างเบรนท์ฟอร์ด เขาชื่นชมการที่ทีมสามารถรักษาความสงบและจัดการกับสถานการณ์ทางอารมณ์ได้ดีหลังเสียประตูนำก่อน และยังกล่าวชมเป็นพิเศษถึงผลงานของเนวานิรีที่ได้รับโอกาสลงเล่นเพราะสมควรได้รับจากการฝึกซ้อมที่ยอดเยี่ยม
ในขณะที่ โทมัส แฟรงค์ ผู้จัดการทีมเบรนท์ฟอร์ด ยอมรับว่าต้องเล่นเกมที่สมบูรณ์แบบจึงจะสามารถเอาชนะอาร์เซนอลได้ เขารู้สึกพอใจกับผลงานของทีมโดยเฉพาะในครึ่งแรก แต่ยอมรับว่าทีมพลาดในจังหวะสำคัญทั้งเกมรุกและรับ
สถิติสำคัญจากการแข่งขัน
อาร์เซนอลสร้างสถิติที่น่าประทับใจหลายอย่างจากเกมนี้:
เก็บคะแนนจากการแข่งขันดาร์บี้แมตช์ในลอนดอนได้มากที่สุด (14 คะแนน)
ทำประตูจากลูกเตะมุมได้มากที่สุดในลีก (9 ประตู) โดย 5 ประตูจาก 12 ประตูล่าสุดในลีกมาจากลูกเตะมุม
ขยายสถิติไร้พ่ายเป็น 11 เกมในทุกรายการ
กาเบรียล เชซุส ทำประตูได้ 6 ประตูจาก 4 เกมหลังสุดในทุกรายการ
ในขณะที่เบรนท์ฟอร์ดกำลังเผชิญกับความท้าทาย:
ยังไม่สามารถรักษาคลีนชีตในการเล่นในบ้านได้เลยในฤดูกาลนี้
เสียประตูในการเล่นในบ้าน 11 เกมติดต่อกัน ซึ่งเป็นสถิติที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ตุลาคม 2007 (13 เกม)
มีคะแนนจากการแข่งขันดาร์บี้แมตช์ในลอนดอนน้อยที่สุด (4 คะแนน เท่ากับคริสตัล พาเลซ)
มองไปข้างหน้า
โอกาสในการไล่ล่าแชมป์ของอาร์เซนอลยังคงเปิดกว้าง โดยพวกเขามีโอกาสที่จะไล่จี้ลิเวอร์พูลให้เหลือเพียง 3 คะแนนหากสามารถเอาชนะไบรท์ตันในวันเสาร์นี้ ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในวันอาทิตย์ ซึ่งแฟนบอลสามารถติดตามเกมได้ผ่านทาง ทางเข้า sbobet เพื่อไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหวในศึกพรีเมียร์ลีก
อาร์เตต้ากล่าวว่าทีมจะมุ่งเน้นไปที่การทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด "เราทำได้เพียงชนะเกมถัดไปของเราและดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันไม่ได้อยู่ในมือของเรา แต่สิ่งที่อยู่ในมือเรา เราต้องทำให้แน่ใจว่าเราทำมันได้" เขากล่าว
การที่ลิเวอร์พูลกำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หลายคนมองว่าพวกเขาอาจจะหนีห่างในการชิงแชมป์ แต่หากอาร์เซนอลสามารถแทรกตัวขึ้นมาในกระจกมองหลังของทีมจากแอนฟิลด์ได้ แรงกดดันอาจจะทำให้เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ในการลุ้นแชมป์ครั้งนี้
