เดวิด บรูคส์ เป็นฮีโร่สำหรับทีมชาติเวลส์ หลังยิงประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีสุดท้ายของเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกที่พบกับทีมชาตินอร์ทมาซิโดเนีย เมื่อคืนที่ผ่านมา ถือเป็นการช่วยทีมเก็บแต้มสำคัญได้อย่างหวุดหวิด
แม้เวลส์จะครองเกมได้ดีกว่าตลอดทั้งเกม แต่พวกเขากลับต้องเผชิญกับความผิดหวังในช่วงท้ายเกมเมื่อนอร์ทมาซิโดเนียขึ้นนำในนาทีแรกของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ หลังจากที่ โจ อัลเลน ตัวสำรองทีมเวลส์ ส่งบอลกลับหลังผิดพลาดอย่างร้ายแรง โดยตั้งใจจะส่งให้ โจ โรดอน แต่บอลถูกตัดหน้าโดย โบยาน มิออฟสกี้ ก่อนที่เขาจะสวยงามจบสกอร์ด้วยการแปลงบอลลอดใต้ตัวผู้รักษาประตู คาร์ล ดาร์โลว์ เข้าไป
ในขณะที่เวลส์ดูเหมือนจะหมดหวัง แต่ในนาทีที่ 6 ของช่วงทดเวลา คีฟเฟอร์ มัวร์ โหม่งเปลี่ยนทิศทางบอลยาวให้กับ บรูคส์ ที่ยิงบอลข้ามเส้นประตูไปอย่างหวุดหวิด
กับการที่เบลเยียม ทีมเต็งของกลุ่มเจ ยังไม่ได้ลงเตะแม้แต่เกมเดียว การเสมอในครั้งนี้อาจส่งผลเสียต่อเวลส์ในการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งโดยตรงในการไปเล่นฟุตบอลโลกปี 2026 ที่แคนาดา เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา
นอร์ทมาซิโดเนียเพิ่งคว้าชัยชนะติดต่อกันเป็นเกมที่ 6 ซึ่งถือเป็นสถิติชุดชัยชนะที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขา โดยเอาชนะลิกเตนสไตน์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และตอนนี้พวกเขายังคงมีผลงานที่แข็งแกร่งในการคัดเลือกฟุตบอลโลกด้วยการเก็บอีกหนึ่งแต้มในคืนวันอังคารนี้
"ผมยังคงอยู่ในความรู้สึกช็อคนิดหน่อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนาทีสุดท้าย ผมรู้สึกว่าเราเป็นทีมที่ดีกว่า ผมต้องซื่อสัตย์"
"และนั่นไม่ได้หมายความว่าผมไม่เคารพฝ่ายตรงข้าม ผมคิดว่าเราควบคุมเกมได้ อาจจะตัดสินใจได้ดีกว่านี้ในจังหวะสุดท้ายสักหนึ่งหรือสองครั้ง แต่เรายังมีประตูที่ถูกเคลียร์ออกจากเส้น"
"ผมพอใจกับผลงานมาก แน่นอนว่าผมต้องการผลลัพธ์ที่ดี และการมาเก็บแต้มที่นี่ได้เพียงแต้มเดียวทำให้ผมผิดหวัง แต่ในแง่ของการเล่น ผมต้องยอมรับ"
"มันจะให้พลังกับเรามาก ผมคิดว่านี่เป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ เป็นสถานที่ที่ยากมากสำหรับการมาเล่นฟุตบอล"
ผลเสมอในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อโอกาสของเวลส์ในการผ่านเข้ารอบสู่ฟุตบอลโลก 2026 ที่จะจัดขึ้นในแคนาดา เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะเมื่อเบลเยียม ทีมเต็งของกลุ่มเจ ยังไม่ได้ลงเล่นแม้แต่เกมเดียว
อย่างไรก็ตาม การได้แต้มในสนามที่ยากลำบากเช่นสโกเปียถือเป็นผลบวก และทีมของเบลลามี่ยังคงต้องพัฒนาต่อไปในเกมถัดๆ ไป เพื่อรักษาโอกาสในการไปเล่นในฟุตบอลโลกครั้งต่อไป
จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้เกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อความผิดพลาดของ โจ อัลเลน นำไปสู่ประตูของ มิออฟสกี้ อย่างไรก็ตาม ทีมเวลส์แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและจิตใจที่แข็งแกร่งในการสู้กลับมาตีเสมอได้อย่างทันท่วงที ด้วยประตูของ เดวิด บรูคส์ ในนาทีสุดท้าย
ความสามารถในการกลับมาจากความผิดหวังนี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของทีมภายใต้การคุมทีมของ เคร็ก เบลลามี่ แม้จะยังมีข้อบกพร่องบางประการที่ต้องแก้ไข แต่ทิศทางโดยรวมดูมีแนวโน้มที่ดี
การเสมอกับนอร์ทมาซิโดเนียอาจจะไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับเวลส์ แต่มันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสามารถของทีมที่จะแข่งขันในระดับสูง เบลลามี่มีงานหนักในการพัฒนาทีมต่อไป แต่เขามีวัตถุดิบที่ดีในการทำงาน
การมี เดวิด บรูคส์ และผู้เล่นคุณภาพคนอื่นๆ ในทีม ทำให้เวลส์ยังคงมีโอกาสที่ดีในการแข่งขันเพื่อคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลก 2026 แม้ว่าพวกเขาจะต้องปรับปรุงในเรื่องของความสม่ำเสมอและการรักษาสมาธิตลอดทั้ง 90 นาที
เบลลามี่ยังใหม่กับการเป็นโค้ชทีมชาติ แต่เขาแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการพัฒนาทีม การทำงานของเขากับนักเตะรุ่นใหม่อย่าง บรูคส์ และการพยายามสร้างรูปแบบการเล่นที่มีเอกลักษณ์เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของทีมชาติเวลส์ ซึ่งได้รับความสนใจจาก sbobet อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การมีผู้เล่นประสบการณ์อย่าง คีฟเฟอร์ มัวร์ ที่ยังคงมีบทบาทสำคัญในทีมจะช่วยในการถ่ายทอดประสบการณ์และสร้างความสมดุลให้กับทีม การผสมผสานระหว่างความสดใหม่ของนักเตะรุ่นใหม่และประสบการณ์ของนักเตะรุ่นเก่าจะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับความสำเร็จในอนาคต
สิ่งสำคัญคือทีมจะต้องเรียนรู้จากประสบการณ์นี้และใช้มันเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาต่อไป เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอลโลกครั้งถัดไป
หากพิจารณาจากสถิติของเกมนี้ เวลส์มีอัตราการครองบอลถึง 58% เทียบกับ 42% ของนอร์ทมาซิโดเนีย นอกจากนี้ พวกเขายังมีจำนวนการยิงประตูมากกว่า โดยยิงไปทั้งหมด 14 ครั้ง (เข้ากรอบ 5 ครั้ง) ในขณะที่เจ้าบ้านยิงเพียง 8 ครั้ง (เข้ากรอบ 3 ครั้ง) เท่านั้น
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าเวลส์เป็นฝ่ายที่ควบคุมเกมได้ดีกว่า แต่พวกเขายังขาดความแม่นยำในการจบสกอร์ จากจำนวนการยิงทั้งหมด 14 ครั้ง พวกเขาทำได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นประเด็นที่เบลลามี่จะต้องแก้ไขในอนาคต
นอกจากนี้ เวลส์ยังได้รับลูกเตะมุม 7 ครั้ง เทียบกับ 4 ครั้งของนอร์ทมาซิโดเนีย แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการโจมตีของพวกเขา แต่การเปลี่ยนโอกาสเหล่านี้ให้เป็นประตูยังคงเป็นความท้าทาย
หลังจบเกม เดวิด บรูคส์ ผู้ทำประตูสำคัญให้ทีมเวลส์ได้กล่าวว่า: "เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากที่ได้ทำประตูในนาทีสุดท้าย แม้ว่าเราจะหวังว่าจะได้ชัยชนะ แต่การเก็บแต้มในสนามที่ยากแบบนี้ก็ถือว่าสำคัญมาก"
"เรารู้ว่าเรามีคุณภาพในทีม และเราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและจิตใจที่แข็งแกร่งในการสู้กลับหลังจากที่เสียประตู เราจะนำความมั่นใจนี้ไปสู่เกมถัดไปอย่างแน่นอน"
ด้านกัปตันทีม คีฟเฟอร์ มัวร์ ได้กล่าวเสริมว่า: "มันเป็นเกมที่ยากมาก และเราต้องเผชิญกับความผิดหวังในช่วงท้ายเกม แต่ทีมได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการกลับมาตีเสมอได้"
"ผมภูมิใจในความพยายามของทุกคนในทีม และเราจะต้องรักษามาตรฐานนี้ไว้ในเกมต่อๆ ไป การเก็บแต้มในวันนี้อาจมีความสำคัญมากในการลุ้นไปฟุตบอลโลก"
หลังจากเกมนี้ เวลส์จะมีโปรแกรมสำคัญในการเจอกับเบลเยียม ทีมเต็งของกลุ่ม ซึ่งจะเป็นการทดสอบที่แท้จริงสำหรับทีมของเบลลามี่ เกมนี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าเวลส์มีศักยภาพแค่ไหนในการแข่งขันกับทีมชั้นนำของยุโรป
นอกจากนี้ พวกเขายังต้องพบกับทีมอย่างตุรกีและไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญในการลุ้นตำแหน่งรองในกลุ่ม การเก็บแต้มในเกมเหล่านี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโอกาสในการผ่านเข้ารอบของพวกเขา
เบลลามี่ได้วางแผนในการพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการสร้างรูปแบบการเล่นที่ชัดเจนและการพัฒนานักเตะรุ่นใหม่ เขาหวังว่าประสบการณ์จากเกมนี้จะช่วยให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นและพร้อมสำหรับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า