แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายคาบ้านต่อ คริสตัล พาเลซ

ในการแข่งขันที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายต่อ คริสตัล พาเลซ 0-2 โดย ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ทำประตูได้สองลูก ส่งผลให้พาเลซขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 12 ขณะที่แมนยูร่วงลงมาอยู่อันดับ 13 ของตารางคะแนน

การวางแผนทางยุทธวิธี

ก่อนเริ่มเกม รูเบน อาโมริม ได้ตัดสินใจปรับเปลี่ยนแผนการเล่นครั้งใหญ่ ด้วยการวาง ค็อบบี้ เมนู ในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า แทนที่จะใช้กองหน้าตัวจริงอย่าง โฮยลุนด์ หรือ เซิร์กเซ่ การตัดสินใจนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการแก้ปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อระหว่างแดนกลางและแดนหน้า แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่ประสบความสำเร็จ

การควบคุมเกม

ในเกมนี้ รูเบน อาโมริม กุนซือของแมนยูต้องเผชิญกับปัญหาหลายประการ โดยเฉพาะการบาดเจ็บของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าในช่วงท้ายเกม นอกจากนี้ การตัดสินใจส่ง ค็อบบี้ เมนู ลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าแทนที่จะเป็น ราสมุส โฮยลุนด์ หรือ โยชัว เซิร์กเซ่ ก็เป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด กำลังจะย้ายไปร่วมทีม แอสตัน วิลล่า

ทีมเจ้าบ้านพยายามที่จะคว้าชัยชนะในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ แต่กลับต้องผิดหวัง การเล่นของทีมขาดประสิทธิภาพทั้งในแนวรุกและแนวรับ โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่ไม่สามารถสร้างสถานการณ์อันตรายได้มากนัก ยกเว้นจังหวะที่ เมนู ยิงชนเสา และโอกาสของ อเลฮานโดร การ์นาโช่

สถิติที่น่าสนใจ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเผชิญกับฤดูกาลที่ยากลำบาก โดยพ่ายในบ้านถึง 7 นัดจาก 13 เกมแรกในลีก ซึ่งเทียบเท่ากับสถิติที่แย่ที่สุดของสโมสรในรอบ 130 ปี นับตั้งแต่ฤดูกาล 1893-94 นอกจากนี้ พวกเขายังไม่สามารถทำประตูได้ในครึ่งแรกถึง 18 เกมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ซึ่งมากที่สุดในลีก

ในขณะเดียวกัน คริสตัล พาเลซ กลับมีผลงานที่น่าประทับใจในการเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังจากที่เคยไม่ชนะในการเยือน 10 ครั้งแรก (แพ้ 9 เสมอ 1) พวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้ 4 จาก 6 นัดหลังสุด และชนะในการเยือนติดต่อกันเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

มุมมองของผู้จัดการทีม

แทคติกและการปรับเปลี่ยนแผนการเล่น

การแข่งขันในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของแนวทางการเล่นระหว่างสองทีมอย่างชัดเจน โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ วางแผนรับมือกับแมนยูได้อย่างแยบยล โดยใช้ความแข็งแกร่งของ มาเตต้า เป็นจุดศูนย์กลางในการโจมตี และใช้ความเร็วของปีกทั้งสองข้างในการสร้างความสับสนให้กับแนวรับเจ้าบ้าน

ในขณะที่ อาโมริม พยายามปรับเปลี่ยนแผนการเล่นหลายครั้งระหว่างเกม แต่ก็ไม่สามารถหาทางแก้ปัญหาได้ การเปลี่ยนตัวผู้เล่นในครึ่งหลังก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ มาร์ติเนซ ต้องออกจากสนามด้วยอาการบาดเจ็บ ทำให้แผนการเล่นต้องถูกปรับเปลี่ยนอีกครั้ง

ผลกระทบต่อฤดูกาล

ผลการแข่งขันนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อฤดูกาลของทั้งสองทีม สำหรับแมนยู การพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขาตกไปอยู่อันดับที่ 13 เท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลต่อความมั่นใจของทีมในช่วงที่เหลือของฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการบาดเจ็บของ มาร์ติเนซ และการจากไปของ แรชฟอร์ด

ในทางกลับกัน คริสตัล พาเลซ กำลังแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้การคุมทีมของ กลาสเนอร์ ชัยชนะนี้ไม่เพียงแต่ยกระดับตำแหน่งของพวกเขาในตารางคะแนน แต่ยังเป็นการตอกย้ำว่าพวกเขาสามารถเอาชนะทีมใหญ่ได้ โดยเฉพาะในการเล่นนอกบ้าน

ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกม

ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้ การพัฒนาของเขาภายใต้การคุมทีมของ กลาสเนอร์ เป็นที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะสถิติการทำประตู 23 ลูกนับตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ซึ่งมีเพียง อเล็กซานเดอร์ อิซัค, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคล พาล์มเมอร์ และ เออร์ลิง ฮาลันด์ เท่านั้นที่ทำประตูได้มากกว่า

ด้วยพละกำลัง ความแข็งแกร่ง และความสามารถในการจบสกอร์ที่เฉียบคม มาเตต้า กลายเป็นกองหน้าที่น่ากลัวสำหรับแนวรับทุกทีม ซึ่งตรงกันข้ามกับสภาพแนวรุกของแมนยูที่ขาดประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด

มองไปข้างหน้า

การพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องกลับมาทบทวนแผนการและเป้าหมายสำหรับฤดูกาลนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดซื้อขายนักเตะกำลังจะปิดตัวลง การสูญเสีย มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปให้กับ แอสตัน วิลล่า และการบาดเจ็บของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ทำให้ทีมจำเป็นต้องเร่งหาตัวแทนโดยด่วน

สำหรับ คริสตัล พาเลซ ชัยชนะครั้งนี้เป็นการยืนยันว่าทิศทางการพัฒนาทีมภายใต้การนำของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กำลังไปได้ดี การเสริมทัพเพิ่มเติมในช่วงสุดท้ายของตลาดซื้อขายอาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ทีมสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีนี้ไว้ได้ตลอดฤดูกาล