สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นอีกหนึ่งวันที่สะท้อนถึงปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญตลอดฤดูกาล ในทางกลับกัน สำหรับ มาร์คัส แรชฟอร์ด นี่คือวันที่เขาได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
แรชฟอร์ด ซึ่งเติบโตขึ้นจากอะคาเดมี่ของยูไนเต็ดตั้งแต่อายุ 7 ปี เคยเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของทีมมาโดยตลอด ทางเข้า sbobet อย่างไรก็ตาม ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อาโมริม เขากลับถูกลดบทบาท และในที่สุดก็ถูกปล่อยตัวให้ แอสตัน วิลล่า ยืมตัว ในเดือนกุมภาพันธ์
และในเกมวันเสาร์ที่ผ่านมา เขาได้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าอีกครั้ง โดยลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังและมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้วิลล่าคว้าชัยชนะ 2-1 เหนือเชลซี
ขณะเดียวกัน ยูไนเต็ดทำได้เพียงเสมอเอฟเวอร์ตัน 2-2 และยังคงรั้งอันดับที่ 15 ของตารางพรีเมียร์ลีก
การเปล่งประกายในสีเสื้อแอสตัน วิลล่า
หลังจากถูกลดบทบาทในช่วงต้นฤดูกาลกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แรชฟอร์ดได้รับโอกาสครั้งใหม่กับ อูไน เอเมรี่ ที่แอสตัน วิลล่า
เกมพบเชลซีในวันเสาร์ เขาถูกส่งลงสนามในช่วงครึ่งหลัง และมีบทบาทสำคัญทันที ด้วยความเร็ว ความมุ่งมั่น และพลังงานของเขา แรชฟอร์ดสามารถเปลี่ยนโมเมนตัมของเกมได้อย่างสมบูรณ์
- 2 แอสซิสต์สำคัญ – แรชฟอร์ดผ่านบอลให้ มาร์โก อเซนซิโอ ทำทั้งสองประตู ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาทำแอสซิสต์ให้ผู้เล่นคนเดียวกัน 2 ครั้งในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020
- สร้างสรรค์โอกาสต่อเนื่อง – ทุกครั้งที่เขาได้บอล เขาสามารถสร้างความอันตรายได้เสมอ
- ได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมทีม – ยูริ ตีเลอม็องส์ ให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports ว่า แรชฟอร์ดเป็นนักเตะที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูงและจะยิ่งพัฒนาต่อไป
"มาร์คัสเป็นนักเตะที่สามารถสร้างความอันตรายได้ในสถานการณ์หนึ่งต่อหนึ่ง หรือแม้กระทั่งหนึ่งต่อสอง เขามีความสำคัญกับทีมของเรา เพราะเขาให้มิติที่แตกต่างในเกมรุกฝั่งซ้าย" – ตีเลอม็องส์
จากความตกต่ำที่ยูไนเต็ด สู่การคืนฟอร์มที่วิลล่า
ในช่วงต้นฤดูกาล แรชฟอร์ดต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อาโมริม
- ไม่ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ – แรชฟอร์ดแทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามหลังจากเดือนธันวาคม
- ขาดความมั่นใจ – ฟอร์มการเล่นที่ตกลงทำให้เขากลายเป็นตัวเลือกสำรอง
- ต้องการหาความท้าทายใหม่ – เขาแสดงความต้องการย้ายออกจากสโมสรในช่วงตลาดหน้าหนาว
ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม แอสตัน วิลล่า ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล ซึ่งอาจเป็นโอกาสที่ทำให้เขาเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมา
แรชฟอร์ดกับอนาคตที่ยังไม่แน่นอน
แอสตัน วิลล่า มี ออปชั่นซื้อขาดแรชฟอร์ดที่ราคา 40 ล้านปอนด์ ซึ่งหมายความว่าอนาคตของเขากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นยังไม่มีความแน่นอน
3 ทางเลือกของแรชฟอร์ดหลังจบฤดูกาล
กลับไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
หากรูเบน อาโมริม ยังคงคุมทีมต่อไป แรชฟอร์ดอาจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดเพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริง แต่ถ้า ยูไนเต็ดเปลี่ยนผู้จัดการทีมอีกครั้ง โอกาสของเขาอาจเปิดกว้างขึ้น
อยู่กับแอสตัน วิลล่าต่อไป
หากเขายังคงโชว์ฟอร์มได้ดี วิลล่าอาจใช้ออปชั่นซื้อขาด ซึ่งอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับเขา เพราะ อูไน เอเมรี่ ดูเหมือนจะเชื่อมั่นในตัวเขา
ย้ายไปสโมสรอื่น
มีหลายสโมสรในยุโรปที่สนใจดึงตัวแรชฟอร์ดไปร่วมทีม โดยเฉพาะทีมจาก ลาลีกา และ กัลโช่ เซเรีย อา หากยูไนเต็ดไม่ต้องการรั้งเขาไว้และวิลล่าไม่ซื้อขาด เขาอาจเลือกเส้นทางใหม่ในลีกอื่น
เส้นทางใหม่ของแรชฟอร์ด และบทเรียนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เรื่องราวของแรชฟอร์ดสะท้อนให้เห็นถึง ความไม่แน่นอนของโลกฟุตบอล จากการเป็นผู้เล่นสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขากลับกลายเป็นส่วนเกินของทีม และต้องออกไปพิสูจน์ตัวเองกับสโมสรอื่น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นกับแรชฟอร์ดยังสะท้อนถึง ปัญหาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปัจจุบัน
- การบริหารทีมที่ไม่ชัดเจน – การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมหลายครั้งส่งผลกระทบต่อผู้เล่นหลายคน
- ขาดความต่อเนื่องในการใช้งานนักเตะ – นักเตะบางคนได้รับโอกาส บางคนถูกลดบทบาทโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน
- การพัฒนานักเตะเยาวชนที่ไม่ดีพอ – ยูไนเต็ดเคยเป็นทีมที่สร้างดาวรุ่งขึ้นมา แต่ตอนนี้พวกเขาอาจกำลังสูญเสียหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของอะคาเดมี่
แม้ว่าแรชฟอร์ดจะกำลังเรียกฟอร์มกลับมาได้ แต่อนาคตของเขากับยูไนเต็ดก็ยังคงคลุมเครือ
คำถามที่เหล่าแฟนบอลปีศาจแดงต้องถามก็คือ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะปล่อยให้แรชฟอร์ดกลายเป็นอดีตของสโมสร หรือจะมอบโอกาสให้เขากลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง?”
