ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2024/25 ได้เข้าสู่รอบน็อคเอาท์อย่างเป็นทางการ โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันครั้งใหญ่ในฤดูกาลนี้ ทีมที่จบอันดับ 9-24 ในรอบลีกจะต้องแข่งขันในรอบเพลย์ออฟ เพื่อชิงตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในขณะที่ทีมที่จบ 8 อันดับแรกได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ
การแข่งขันในรอบเพลย์ออฟใช้ระบบเหย้า-เยือน โดยมีการจับคู่ระหว่างทีมที่จบอันดับ 9-10 พบกับทีมอันดับ 23-24, ทีมอันดับ 11-12 พบกับทีมอันดับ 21-22 และเรียงลำดับไปในลักษณะนี้ ผู้ชนะจากรอบเพลย์ออฟจะได้เข้าไปเป็นทีมไม่มีซีดในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ระบบการแข่งขันใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มความน่าสนใจและความท้าทายให้กับทีมที่มีผลงานปานกลางในรอบแรก โดยเปิดโอกาสให้พวกเขาได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในรอบเพลย์ออฟ นอกจากนี้ ระบบนี้ยังช่วยให้แฟนบอลได้เห็นการเผชิญหน้าระหว่างทีมใหญ่มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอลทั่วโลกต่างรอคอย
กติกาสำคัญในรอบเพลย์ออฟคือการนับประตูทีมเยือน ซึ่งไม่มีการใช้กฎประตูทีมเยือนอีกต่อไป หากผลรวมสองนัดเสมอกัน จะต้องต่อเวลาพิเศษและดวลจุดโทษเพื่อหาผู้ชนะ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกมมีความตื่นเต้นมากขึ้น เพราะทุกทีมต้องเล่นเต็มที่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน
ผลการแข่งขันนัดแรกมีความน่าสนใจหลายคู่ โดยเฉพาะคู่ระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พ่ายให้กับเรอัล มาดริด 2-3 ในบ้านตัวเอง และบาเยิร์น มิวนิค บุกชนะเซลติก 2-1 นอกจากนี้ยังมีผลการแข่งขันที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง บุกชนะเบรสต์ 3-0 และโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เอาชนะสปอร์ติง ลิสบอน 3-0
การจับคู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะมีการจัดพิธีจับสลากอีกครั้งในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานใหญ่ยูฟ่า เมืองนียง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยทีมที่ผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติจะถูกจับคู่กับทีมที่ผ่านจากรอบเพลย์ออฟตามลำดับคะแนน
ทีมจากอังกฤษที่เข้าร่วมการแข่งขันมีทั้งหมด 5 ทีม ได้แก่:
ลิเวอร์พูล (อันดับ 1) - ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมโดยอัตโนมัติ
อาร์เซนอล (อันดับ 3) - ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมโดยอัตโนมัติ
แอสตัน วิลล่า (อันดับ 8) - ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมโดยอัตโนมัติ
เซลติก (อันดับ 21) - เข้าร่วมรอบเพลย์ออฟ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อันดับ 22) - เข้าร่วมรอบเพลย์ออฟ
รายการแข่งขันจะดำเนินไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 31 พฤษภาคม 2025 ที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยมีกำหนดการแข่งขันในแต่ละรอบดังนี้:
รอบ 16 ทีมสุดท้าย: 4-5 มีนาคม และ 11-12 มีนาคม
รอบก่อนรองชนะเลิศ: 8-9 เมษายน และ 15-16 เมษายน
รอบรองชนะเลิศ: 29-30 เมษายน และ 6-7 พฤษภาคม
รอบชิงชนะเลิศ: 31 พฤษภาคม
การปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันในฤดูกาลนี้ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างทีมใหญ่ตั้งแต่รอบแรกๆ ของรายการ ซึ่งสร้างความตื่นเต้นและความน่าสนใจให้กับแฟนบอลทั่วโลก โดยเฉพาะการพบกันของทีมยักษ์ใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ เรอัล มาดริด ตั้งแต่รอบเพลย์ออฟ
รูปแบบการแข่งขันใหม่นี้ยังช่วยเพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้กับรายการ เนื่องจากมีการแข่งขันระหว่างทีมชั้นนำมากขึ้น ส่งผลให้มีการถ่ายทอดสดและการเข้าถึงของแฟนบอลเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ การที่ทีมต้องเล่นหลายนัดมากขึ้นยังช่วยให้แฟนบอลได้เห็นการพัฒนาของทีมและนักเตะตลอดทั้งฤดูกาล
ความน่าสนใจอีกประการหนึ่งคือการที่ทีมจากลีกรองอย่างเบรสต์สามารถผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้ แสดงให้เห็นว่าระบบการแข่งขันใหม่เปิดโอกาสให้ทีมรองมีโอกาสสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมได้เช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะเจอกับงานหนักในการเจอกับปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในรอบเพลย์ออฟก็ตาม
จากผลการแข่งขันในนัดแรก หลายทีมมีโอกาสเข้ารอบที่แตกต่างกัน โดยทีมที่ชนะในบ้านด้วยสกอร์ขาด เช่น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้ารอบ ในขณะที่คู่อื่นๆ ยังต้องลุ้นกันในนัดที่สอง โดยเฉพาะคู่ระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ เรอัล มาดริด ที่ต้องไปเล่นนัดที่สองที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว ซึ่งแฟนบอลสามารถติดตามอัตราต่อรองและวิเคราะห์การแข่งขันผ่าน SBOBET ได้อีกด้วย
การแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2024/25 ได้สร้างความตื่นเต้นและความน่าสนใจมากขึ้นด้วยรูปแบบการแข่งขันใหม่ การเผชิญหน้ากันของทีมใหญ่ตั้งแต่รอบเพลย์ออฟทำให้การแข่งขันมีความเข้มข้นมากขึ้น และเป็นที่น่าติดตามว่าทีมใดจะสามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุด ณ สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2025